[ประกาศเพิ่มเติมจากแกร็บ] การประกาศปรับเปลี่ยนข้อกำหนดต่างๆ และการรักษามาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ

ประกาศเพิ่มเติมจาก แกร็บ ประเทศไทย 

เรียน พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บที่ให้บริการโดยรถจักรยานยนต์

สืบเนื่องจากการที่ แกร็บ ประเทศไทย ได้มีการประกาศปรับเปลี่ยนข้อกำหนดต่างๆ และการรักษามาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2563 ภายหลังรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของพาร์ทเนอร์คนขับในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ทีมบริหารของบริษัทฯ ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับ เพื่อรับฟังมุมมองและความคิดเห็นเพิ่มเติม พร้อมชี้แจงและทำความเข้าใจถึงรายละเอียดของประเด็นต่างๆ ซึ่งสามารถสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

ประเด็นสำคัญ
ข้อสงสัยหรือข้อกังวลจากพาร์ทเนอร์คนขับ
คำชี้แจงเพิ่มเติมจากบริษัทฯ
การแบ่งพื้นที่การให้บริการ และการรับงานของพาร์ทเนอร์คนขับในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
  • ในอนาคต บริษัทฯ จะมีการประกาศแบ่งพื้นที่การให้บริการ ซึ่งอาจทำให้เกิดข้อจำกัดในการรับงานของพาร์ทเนอร์คนขับอีกหรือไม่ ?
  • บริษัทฯ ได้ปรับปรุงระบบเป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อให้พาร์ทเนอร์คนขับสามารถเลือกเปิด-ปิดการรับงานได้ตามความสะดวก เมื่อท่านให้บริการอยู่ในเขตพื้นที่รอยต่อกับจังหวัดกรุงเทพฯ เช่น นครปฐม หรือพัทยา
  • ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้รวมจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานีให้กลับมาเป็นพื้นที่เดียวกับกรุงเทพฯ เหมือนเช่นเดิมแล้ว เนื่องจากเกิดปัญหาทางเทคนิคบางประการในช่วงที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ ขอยืนยันว่า หากจะมีการประกาศแบ่งเขตพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้งในอนาคต พาร์ทเนอร์คนขับจะสามารถเลือกเปิด-ปิดการรับงานได้ตามความสะดวก (เช่นเดียวกับเมื่อท่านเข้าไปรับงานในเขตพื้นที่รอยต่อจังหวัดนครปฐม หรือพัทยา)
การใช้กระเป๋าแกร็บในการให้บริการจัดส่งสินค้า-พัสดุผ่านบริการ “แกร็บเอ็กซ์เพรส (ไบค์)”
  • พาร์ทเนอร์คนขับที่ไม่มีกระเป๋าแกร็บสามารถรับงานแกร็บเอ็กซ์เพรส (ไบค์) ได้แล้วหรือไม่ ?
  • พาร์ทเนอร์คนขับสามารถใช้กระเป๋าแกร็บที่มีอยู่ได้หรือไม่ หรือจำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ ?
  • บริษัทฯ จะมีแนวทางอย่างไรในการจัดการเพื่อลดข้อกังวลของพาร์ทเนอร์คนขับจากการใช้กระเป๋าหรือสวมเสื้อแจ็กเก็ตแกร็บในระหว่างการให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสาร ?
  • พาร์ทเนอร์คนขับทุกคนสามารถรับงานแกร็บเอ็กซ์เพรส (ไบค์) ได้เหมือนเดิม (ไม่ว่าท่านจะมีหรือไม่มีกระเป๋าแกร็บก็ตาม)
  • นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป บริษัทฯ จะเปิดบริการใหม่เพิ่มเติม คือ “แกร็บเอ็กซ์เพรส (ไบค์) แบบมีกระเป๋า” เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า โดยพาร์ทเนอร์คนขับที่รับงานนี้สามารถใช้ได้ทั้งกระเป๋าแกร็บขนาดเล็ก (รุ่น v.1 หรือ v.2) , กระเป๋าแกร็บขนาดใหญ่ หรือ กระเป๋า แกร็บฟู้ด/แกร็บเอ็กซ์เพรส (รุ่นเก่า)
  • ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ประกาศข้อกำหนดและเงื่อนไขในการลงทะเบียนกระเป๋าแล้ว โดยท่านสามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง https://grb.to/gebag
การให้ความคุ้มครองในระหว่างการรับงาน
  • กรณีใดบ้างที่สามารถเคลมประกันได้ ?
  • เงื่อนไขหรือข้อกำหนดในการเคลมประกันมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ?
  • การเคลมประกันใช้เวลานานแค่ไหน ?
  • มีการทำประกันชดเชยรายได้หรือไม่หากพาร์ทเนอร์คนขับต้องหยุดรับงานเป็นเวลานาน ?
  • ในกรณีที่พาร์ทเนอร์คนขับประสบอุบัติเหตุระหว่างการรับงาน (ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้ก่อเหตุ หรือเป็นผู้ประสบเหตุก็ตาม) ท่านสามารถเคลมประกันเพิ่มเติม (ส่วนเกินหลังจากท่านเคลมประกันจาก พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์แล้ว) จากบริษัทฯ ได้ โดยให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 50,000 บาทสำหรับค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วย และสูงสุดถึง 200,000 บาทหากรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
  • บริษัทฯ จะทำการสื่อสารและชี้แจงให้พาร์ทเนอร์คนขับทุกท่านทราบถึงรายละเอียด เงื่อนไข และขั้นตอนของการเคลมประกันอุบัติเหตุในรูปแบบที่ชัดเจนและง่ายต่อความเข้าใจ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลมประกันในอนาคต
งานแบช (การรับงานจัดส่งอาหารแบบได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าให้จัดส่งหลายจุด)
  • สำหรับงานพ่วงแบบ 2 ร้านค้า ระยะทางระหว่างร้านค้าค่อนข้างไกล
  • ระยะเวลาในการรออาหารบางออเดอร์ยาวนานมาก
  • บริษัทฯ จะสร้างช่องทางการรับข้อเสนอแนะผ่าน “ศูนย์ช่วยเหลือ” (หรือ Help Centre) ในแอปพลิเคชันของคนขับ เพื่อให้พาร์ทเนอร์คนขับแจ้งข้อมูลในกรณีที่ต้องประสบปัญหาการรอคิวที่ร้านอาหารเป็นเวลานาน หรือการรับงานแบชจากร้านอาหารที่มีระยะทางไกลมาก
  • บริษัทฯ จะนำข้อเสนอแนะจากทั้งพาร์ทเนอร์คนขับและลูกค้าไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาระบบงานแบชอย่างต่อเนื่อง เช่น การประสานให้ร้านอาหารเริ่มเตรียมอาหารก่อนท่านเดินทางไปถึง รวมทั้งการกำหนดรูปแบบการจ่ายงานจากหลายร้านอาหารให้ดีขึ้น เป็นต้น
คอลเซ็นเตอร์และนโยบายการแบน (ระงับสัญญาณการให้บริการ)
  • ข้อกังวลเกี่ยวกับปัญหาในการให้บริการเนื่องจากคอลเซนเตอร์ไม่ได้ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
  • ประเด็นเรื่องความชัดเจนของขั้นตอนการแบนและการอุทธรณ์ เป็นต้น
  • บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า เวลาทำการของคอลเซ็นเตอร์นั้นได้ถูกกำหนดโดยพิจารณาจากปริมาณของการใช้บริการของลูกค้า ทั้งนี้ ที่ผ่านมาก บริษัทฯ ได้ปรับลดเวลาทำการลง (ระหว่างเวลา 08.00 - 23.00 น.) ในช่วงที่มีการประกาศล็อคดาวน์จากผลกระทบของโรคโควิด-19
  • จากปริมาณการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ปรับเวลาทำการของคอลเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 1 ชั่วโมง คือ ระหว่างเวลา 08.00 - 24.00 น. เพื่อรองรับการให้บริการรับส่งผู้โดยสาร และการจัดส่งอาหาร โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป
  • สำหรับนโยบายการแบน บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการแบนจากกรณีอุบัติเหตุ จากเดิมที่ระบุว่า “ในกรณีที่ท่านเป็นฝ่ายที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งแรก บริษัทฯ จะทำการแบนหรือการระงับสัญญาณการให้บริการเป็นระยะเวลา 7 วันเพื่อให้ท่านเข้ารับการอบรมอีกครั้งผ่านระบบออนไลน์” เป็น “ในกรณีที่ท่านเป็นฝ่ายก่อให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งแรก บริษัทฯ จะทำการตักเตือนและเน้นย้ำเรื่องของอุบัติเหตุ และหากเกิดอุบัติเหตุซ้ำในครั้งที่สอง บริษัทฯ จะทำการแบนหรือระงับสัญญาณการให้บริการเป็นระยะเวลา 3 วัน โดยท่านต้องเข้ารับการอบรมใหม่อีกครั้งผ่านระบบออนไลน์ เพื่อขอเปิดสัญญาณการให้บริการ"
  • บริษัทฯ ขอชี้แจงเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจว่า โดยปกติแล้ว ในกรณีที่มีข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านความปลอดภัย (เช่น การข่มขู่คุกคาม การล่วงละเมิด หรืออุบัติเหตุ) บริษัทฯ จะทำการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยตรงจากพาร์ทเนอร์คนขับ
  • แต่ในกรณีที่มีการร้องเรียนเข้ามาในระบบให้คะแนนดาวและความเห็นหลังจบงานที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของการให้บริการ บริษัทฯ จะใช้ระบบดำเนินการอัตโนมัติเพื่อแจ้งเตือนพาร์ทเนอร์คนขับผ่านการส่งข้อความเมื่อมีการฝ่าฝืนหรือกระทำความผิดใน 2 ครั้งแรก และจะทำการแบนในครั้งที่ 3 (นับจำนวนครั้งในรอบ 7 วันล่าสุด)
  • ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและป้องกันความสับสน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดของประกาศที่เกี่ยวข้องได้จากประกาศด้านล่าง
    o มาตรฐานการให้บริการ
    o มาตรฐานด้านสุขอนามัย
    o ข้อควรระวัง ที่ส่งผลต่อการระงับสัญญาณ


บริษัทฯ ขอเรียนว่า การประกาศปรับเปลี่ยนข้อกำหนดต่างๆ เป็นเพียงก้าวแรกของการพัฒนาปรับปรุงการให้บริการเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและสร้างประสบการณ์ที่ดีในการรับงานของพาร์ทเนอร์คนขับ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะยังคงรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางการสื่อสาร รวมถึงการประชุมกับตัวแทนของพาร์ทเนอร์คนขับ ซึ่งจะจัดขึ้นครั้งแรกในเดือนกันยายนนี้ เพื่อรับฟังและหารือถึงประเด็นต่างๆ นอกเหนือจากประเด็นต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น


แกร็บ ประเทศไทย

Guest User