GrabDriverTH

View Original

ผู้โดยสารขอเปลี่ยนจุดส่ง ทำอย่างไรดี ?

แกร็บพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทุกการเดินทางนั้นง่ายดายสำหรับพาร์ทเนอร์ อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องผู้โดยสารขอเปลี่ยนจุดส่งเมื่อการเดินทางนั้นเริ่มขึ้นแล้วอาจทำให้การทำงานของพาร์ทเนอร์ไม่ราบรื่น

เพราะเหตุนี้เอง ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไป ผู้โดยสารจะสามารถเปลี่ยนจุดส่งได้ด้วยตนเองจากหน้าจอแอปพลิเคชัน Grab และเมื่อผู้โดยสารเลือกเปลี่ยนจุดส่งแล้ว แอปพลิเคชัน Grab Driver ของพาร์ทเนอร์จะแจ้งจุดส่งใหม่ โดยระบบจะคำนวณราคาที่อ้างอิงจากระยะทางตั้งแต่จุดรับมาถึงตำแหน่งปัจจุบันต่อไปยังจุดส่งใหม่โดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงจุดส่งจากผู้โดยสาร

บริการใหม่นี้จะช่วยให้พาร์ทเนอร์ได้รับค่าโดยสารที่ถูกต้องและเป็นธรรม เพื่อประสบการณ์ในการทำงานที่ดียิ่งกว่าเดิม !


ฉันต้องทำอย่างไร เมื่อผู้โดยสารเปลี่ยนจุดหมายปลายทาง ?

  1. ผู้โดยสารเปลี่ยนจุดส่งบนหน้าแอปฯ Grab ของผู้โดยสาร

  2. คุณจะได้รับหน้าจอแจ้งเตือน ‘จุดส่งและค่าโดยสารมีการเปลี่ยนแปลง’ กด ‘ตกลง’

  3. กดที่ปุ่มนำทาง เพื่อให้แผนที่นำทางคุณไปสู่จุดส่งใหม่

  4. ราคาค่าโดยสารตายตัวจะถูกคำนวณให้ใหม่จากระยะทางสู่จุดส่ง (รวมระยะทางทั้งหมดตั้งแต่พาร์ทเนอร์เดินทางจากจุดรับผู้โดยสาร) รวมถึงค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนจุดส่งที่เรียกเก็บจากผู้โดยสาร


ผู้โดยสารไม่ทราบวิธีเปลี่ยน ทำอย่างไรดี !?

พาร์ทเนอร์สามารถแนะนำให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามขั้นตอนง่าย ๆ ตามวีดีโอด้านล่างได้เลย !

*การเปลี่ยนจุดส่งทำได้โดยผู้โดยสารเท่านั้น ผู้ขับไม่สามารถเปลี่ยนจุดส่งด้วยตัวเองในแอปฯ Grab Driver ได้


ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงจุดส่ง

หมายเหตุ:

  1. บริการนี้ยังอยู่ในช่วงทดลองให้บริการ และผู้โดยสารจะสามารถเปลี่ยนจุดส่งได้ 1 ครั้งต่อการเดินทางเท่านั้น

  2. สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ใช้ระบบนำทางอื่น นอกเหนือจากระบบนำทางของแกร็บ (เช่น Google Maps) พาร์ทเนอร์จะได้รับข้อความแจ้งเตือนบนหน้าจอแอปฯ Grab Driver เมื่อจุดส่งถูกเปลี่ยน กรุณากดปุ่มนำทางอีกครั้งเพื่อให้ระบบนำทางพาร์ทเนอร์ไปสู่จุดส่งใหม่


กระดานถาม-ตอบ

See this content in the original post