ข้อความเสียง (Voice Messaging)
เพราะความปลอดภัยของพาร์ทเนอร์คือเรื่องสำคัญที่สุด
แกร็บเตรียมเปิดให้ทดลองใช้ ‘ข้อความเสียง’ ในหน้า GrabChat ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับผู้ใช้ iOS และตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 61 เป็นต้นไป สำหรับผู้ใช้ Android
ประโยชน์ของ ‘ข้อความเสียง’
ตัวช่วยเพื่อการสื่อสารที่สะดวกและรวดเร็วระหว่างพาร์ทเนอร์และผู้โดยสาร
เพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ขับขี่ เนื่องจากพาร์ทเนอร์ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ข้อความในขณะขับรถอีกต่อไป
มอบประสบการณ์ในการทำงานที่ดีกว่า สำหรับพาร์ทเนอร์คนสำคัญของแกร็บ
เริ่มใช้งาน ‘ข้อความเสียง’ ได้เมื่อไหร่ ?
บริการ ‘ข้อความเสียง’ พร้อมเปิดให้ทดลองใช้งานแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับผู้ใช้ iOS และตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 61 เป็นต้นไป สำหรับผู้ใช้ Android
วิธีใช้งาน
กระดานถาม-ตอบ
ถาม: ฉันจะสามารถส่ง 'ข้อความเสียง' ให้ผู้โดยสารได้หรือไม่ หากผู้โดยสารยังไม่มีบริการ 'ข้อความเสียง' ในแอปฯ ?
ตอบ: บริการ 'ข้อความเสียง' จะปรากฎต่อเมื่อทั้งพาร์ทเนอร์และผู้โดยสารมีบริการเสริมนี้อยู่ในแอปฯ หากพาร์ทเนอร์มีบริการ 'ข้อความเสียง' แต่ผู้โดยสารยังสามารถใช้งานบริการนี้ได้ ตัวเลือก 'ข้อความเสียง' จะไม่ปรากฎบนหน้าจอ GrabChat ระหว่างพาร์ทเนอร์และผู้โดยสารคนดังกล่าว
ถาม: ระบบของแกร็บจะบันทึกข้อความเสียงที่ฉันและผู้โดยสารส่งหากันหรือไม่ ?
ตอบ: ระบบของแกร็บจะบันทึกข้อความเสียงที่พาร์ทเนอร์และผู้โดยสารส่งหากันเพื่อใช้ในการตรวจสอบกรณีที่มีข้อพิพาท (เช่น ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรายงานการถูกคุกคาม)
ถาม: ฉันและผู้โดยสารสามารถบันทึกข้อความเสียงที่ส่งหากันไว้ในเครื่องมือสื่อสารได้หรือไม่ ?
ตอบ: ไม่ได้ค่ะ ข้อความเสียงที่พาร์ทเนอร์และผู้โดยสารส่งหากันจะหายไปทันทีที่งานนั้นสิ้นสุด
ถาม: บริการเสริมนี้จะใช้พื้นที่บนเครื่องมือสื่อสารของฉันเยอะหรือไม่ ?
ตอบ: ขนาดของบริการเสริมนี้อาจแตกต่างกันไปตามประเภทของเครื่องมือสื่อสารที่พาร์ทเนอร์ใช้ โดยเฉลี่ยแล้ว 1 ข้อความเสียงที่มีความยาว 1 นาทีจะใช้พื้นที่ประมาณ 1 MB
ถาม: ฉันต้องทำอย่างไรเพื่อเปิดการใช้งานบริการ 'ข้อความเสียง'
ตอบ: พาร์ทเนอร์ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการตั้งค่าใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่เข้าสู่หน้าจอ GrabChat และเลือก 'ส่งข้อความที่เขียนเอง' หากแอปฯ ของผู้โดยสารมีบริการนี้ด้วยเช่นกัน หน้าจอ GrabChat ของพาร์ทเนอร์และผู้โดยสารจะมีปุ่มไมโครโฟนปรากฏอยู่